แชมพูธรรมชาติ จะเป็นแชมพูที่มีส่วนผสมส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติมากกว่าสารเคมีสังเคราะห์ ทำให้ในตัวของแชมพูเองจะมีสารเคมีอยู่น้อยมากๆ บางยี่ห้อแทบจะไม่มีสารเคมีเลยอย่างของ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด เป็นต้น โดยจะเน้นใช้สารสกัดจากพืชเป็นหลัก อย่าง น้ำมันดอกทานตะวัน,  อโลเวล่า และบรอมีเลน (เป็นเอนไซม์ตามธรรมชาติจากพืชที่สามารถพบได้ทุกส่วนของสับปะรดทั้งใบ ลำต้น หรือผล) เป็นต้น ซึ่งแชมพูที่มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติจะมีความอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ และเส้นผมมากกว่าแชมพูที่มีสารเคมี แหละที่สำคัญไม่ทำให้มีอาการแพ้ง่ายอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังส่งผลดีต่อสุขภาพต่อสุขภาพของเส้นผมอีกหลายๆ ด้านดังนี้

ข้อดีของการใช้แชมพูที่ทำมาจากธรรมชาติ

  1. อ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผม ส่วนผสมธรรมชาติมักจะอ่อนโยนและไม่รุนแรงเท่ากับสารเคมีสังเคราะห์ ทำให้ลดความเสี่ยงของการระคายเคืองหนังศีรษะ คันหรือแพ้ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะแพ้ง่ายหรือเส้นผมบอบบาง
  2. ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและมีสุขภาพดี หลายส่วนผสมธรรมชาติ เช่น วิตามิน อี จากน้ำมันดอกทานตะวัน ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผม ให้นุ่มสวย แลดูมีน้ำหนัก,บรอมีเลน แอคทีฟ ช่วยให้ผมสะอาดอย่างอ่อนโยน ต่อทุกสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ, อโลเวล่า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เส้นผมและหนังศีรษะ มีชีวิตชีวา
  3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แชมพูธรรมชาติมักจะไม่ใช้สารเคมีที่รุนแรงซึ่งอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมเมื่อล้างออกจากผม ส่งผลดีต่อการลดมลพิษในน้ำ
  4. ไม่มีสารเคมีที่อาจเป็นอันตราย แชมพูธรรมชาติมักไม่มีสารพาราเบน ซัลเฟต และซิลิโคน ซึ่งเป็นสารที่มักพบในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบบดั้งเดิม และมีการศึกษาว่าอาจมีผลเสียต่อสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อม
  5. ผลลัพธ์ระยะยาวที่ดีกว่า แม้แชมพูธรรมชาติอาจไม่ทำให้เกิดผลทันทีเหมือนกับแชมพูที่มีสารเคมี แต่การใช้ระยะยาวสามารถช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะมีสุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน

การเลือกแชมพูให้เหมาะสมสำหรับเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ

  1. รู้จักประเภทเส้นผมของตนเองก่อน เมื่อคุณรู้ว่าเส้นผมของคุณมีลักษณะอย่างไร เช่น เส้นผมหยิก, ตรง, บาง, หรือหนา เพราะแต่ละประเภทจะต้องการส่วนผสมที่เหมาะสมที่ต่างกัน
  2. พิจารณาสภาพหนังศีรษะ หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับหนังศีรษะ เช่น รังแค, คันหรือมันมาก คุณควรเลือกแชมพูที่ออกแบบมาเพื่อรักษาหรือช่วยบรรเทาเหล่านี้
  3. เลือกส่วนผสมที่เหมาะสม ดูส่วนผสมในแชมพูว่ามีอะไรบ้าง หากคุณต้องการแชมพูที่อ่อนโยน ควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารก่อฟองแรง เช่น ซัลเฟต และเลือกแชมพูที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันอาร์แกน หรือ อโลเวล่า
  4. คำนึงถึงปัญหาเส้นผม หากคุณมีปัญหาเส้นผมแห้งหรือแตกปลาย ควรเลือกแชมพูที่มีคุณสมบัติในการบำรุงเส้นผม หากเส้นผมของคุณมันมาก ควรเลือกแชมพูที่ช่วยควบคุมความมัน
  5. ทดลองใช้งาน บางครั้งคุณอาจจำเป็นต้องทดลองใช้หลายๆ ยี่ห้อหรือหลายสูตร เพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับคุณ ใช้แชมพูตัวใหม่อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์เพื่อดูผลลัพธ์ที่แท้จริง
  6. อ่านรีวิว การอ่าน หรือดูรีวิวจากผู้ใช้จริงสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแชมพูและสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าจะเหมาะสมกับคุณหรือไม่

วิธีแก้ปัญหาผมขาดหลุดร่วง หรือเปราะบางง่าย

1.เริ่มจากการหวีผมให้ถูกวิธี

ซึ่งการแก้ปัญหาผมร่วงด้วยการหวีผมนี้จะช่วยบำรุงผมไปด้วยในตัว ควรที่จะต้องหวีผมเบา ๆ โดยเริ่มหวีจากกลางผม หรือปลายผมก่อนเพื่อสางไม่ให้ผมพันกันและไม่ควรดึงรั้งหรือกระตุกผมแรง ๆ ทั้งยังไม่ควรหวีผมในขณะ ที่ผมเปียก ควรเช็ดผมให้หมาดเกือบแห้งก่อนแล้วค่อยหวีผมเพราะเส้นผมจะอ่อนแอที่สุดในตอนที่ผมเปียก

2.หมั่นนวดหนังศีรษะเพื่อเพิ่มความหนาของเส้นผม

ทั้งนี้การนวดหนังศีรษะอย่างถูกต้องจะสามารถช่วยขยายหลอดเลือดภายในหนังศีรษะ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังรูขุมขน ทำให้สุขภาพเส้นผมแข็งแรงขึ้น และเจริญเติบโตได้ดี จากการศึกษาหนึ่งพบว่าการนวดหนังศีรษะ 4 นาทีต่อวัน เป็นเวลา 24 สัปดาห์ ทำให้ผมหนาขึ้นได้ด้วย

3.เลี่ยงการใช้สารเคมี และความร้อนกับเส้นผม

อย่างที่บอกไปว่าสารเคมีและความร้อน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของผมร่วง เส้นผมเปราะบาง ขาดง่าย ควรใช้การเป่าผมด้วยลมเย็นและใช้อุปกรณ์ทำผมที่ให้ความร้อนลดลงหรือใช้สเปรย์ป้องกันความร้อน กับเส้นผม เพื่อล็อกความชุ่มชื้นให้เส้นผม รวมถึงหลังจากทำสีผมหรือใช้สารเคมีกับเส้นผมแล้ว ควรทำทรีตเมนต์บำรุงผม เพื่อซ่อมแซมผมเสียเป็นประจำด้วย

4.ไม่มัดผมแน่นจนเกินไป

การมัดผมก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่สามารถทำให้เกิดผมเปราะบาง ขาดง่ายได้ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากการมัดผมหรือรวบตึงแน่น ๆ จะทำให้สารอาหารลำเลียงไปไม่ถึงปลายผมและรากผมได้น้อย การมัดแน่น ๆ จนดึงเส้นผมอาจจะทำให้เส้นผมเสียหาย ดังนั้นวิธีแก้ผมร่วง จึงควรมัดผมหลวม ๆ และเลือกใช้หนังยางแบบผ้า เพื่อลดการดึงเส้นผมไปด้วย

5.ใช้สมุนไพรในการสระผม

หลายๆ คนคงพอจะรู้แล้วว่าสารเคมีเป็นสาเหตุของผมร่วง ผมเปราะบางขาดง่าย แชมพูที่ควรเลือกใช้จึงเป็นแชมพูที่มีความอ่อนโยนต่อเส้นผมให้ได้มากที่สุดอย่างแชมพูจากสารสกัด ธรรมชาติ หรือแชมพูสมุนไพรแก้ผมร่วง

ทั้งนี้การเลือกใช้แชมพูธรรมชาติที่จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ ดีทั้งสำหรับทั้งคุณและสิ่งแวดล้อม เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดี แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรงในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอีกด้วย ซึ่งนอกจากจะสัมผัสกับเส้นผม และหนังศีรษะของคุณแล้ว ยังอาจสัมผัสดวงตา ผิวกายของคุณได้ และถ้าจะให้ดีอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอ และทานอาหารที่ช่วยเสริมการบำรุงเส้นผมด้วย อย่างอาหารที่มีโปรตีนไบโอติน และซิงค์เพื่อที่จะช่วยบำรุงเส้นผม และทำให้ผมแข็งแรงขึ้นค่ะ

Related Posts